เชื่อว่าหลาย ๆ คน เคยเจอปัญหา Move On ไม่ได้ ไปต่อไม่ถูก เหมือนถูกทิ้งกลางทะเลทราย ทุกคนรู้ดีว่าบาดแผลทางจิตใจรักษายากกว่าบาดแผลที่เกิดจากร่างกาย แต่วันนี้ หนังสือจิตวิทยาเล่มนี้ Move On จากทุกความเจ็บปวดจะช่วยให้คุณเดินต่อไปได้ เมื่อเราเจอกับความทุกข์ก็ยากที่จะผ่านมันไปได้ ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของเราว่าเราแข็งแกร่งพอที่จะผ่านมันไปได้หรือไม่ คนที่ภูมิต้านทานดีจะสามารถผ่านมันไปได้และเจ็บปวดจากรอยแผลที่เกิดจากความทุกข์นี้เล็กน้อย แต่คนที่ภูมิต้านทานน้อยจะจมอยู่กับความทุกข์นี้อยู่นาน เกิดเป็นรอยแผลที่ใหญ่และเจ็บปวดกับมัน ซึมเศร้า และสุดท้ายถึงขั้นฆ่าตัวตายได้ แต่เราสามารถเยียวยาแผลนี้ได้ด้วยตัวเองได้ หากทำอย่างถูกวิธีเราก็จะ Move On กับแผลเป็นนี้ได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง
ข้อคิด ดี ๆ จาก Move On จากทุกความเจ็บปวด ในหนังสือ Move On จากทุกความเจ็บปวด
บอกไว้ว่า เมื่อโลกเหวี่ยงให้เรามาเจอกันและมีบางอย่างที่เหมือนกันจนเหลือเชื่อนั้นทำให้เราต่างตกหลุมรักซึ่งกันและกัน แต่ว่าความคล้ายกันนั้นทำให้ความสัมพันธ์กลับไม่ยืนยาวเหมือนกับคู่รักศิลปินคู่หนึ่งที่ลักษณะการเลี้ยงดูเหมือนกัน คือการเลี้ยงลูกแบบตามใจ เอาใจ ปกป้องมากเกินไป ไม่ปล่อยให้ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทำให้ทั้งคู่พยายามเอาใจกัน ตามใจเพราะคิดว่านี่คือวิธีที่ถูกต้อง ในช่วงแรกรักย่อมหวานชื่น แต่เมื่อผ่านไปต่างฝ่ายย่อมอยากได้ความรักและการตามใจเหมือนแม่จนทำให้มองว่าอีกฝ่ายเห็นแก่ตัวและอยากหาคนใหม่ การตามใจเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยไม่ใช้ความพยายามนั้นเป็นเพลงที่จะช่วยประครองชีวิตคู่ได้ และปรับตัวให้ความเหมือนและความแตกต่างนั้นลงตัวให้ได้ เพราะคนที่ใช่ไม่จำเป็นต้องคล้ายกับเราทุกอย่าง เพียงแค่เราต้องหา จุดร่วม ของเราทั้งสองให้ได้ก็พอ
การที่ทำตัวให้เป็นประโยชน์มากไปจะนำมาสู่ความทุกข์ได้ ต้องเริ่มต้นจากการสร้างความสุขให้ตัวเอง หยุดทำตัวให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นมากไป ยอมเจ็บปวดบ้าง และยอมเปิดใจคุยเพื่อเผยความรู้สึกกันและกัน ทำให้ชีวิตของคุณสุภางค์เริ่มใหม่ได้อีกครั้งในวัย 50 ปีเหมือนกับคนที่ลุกออกจากฝันร้ายได้ หนังสือ Move On จากทุกความเจ็บปวด สามารถหาซื้อได้ตามร้านจำหน่ายหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือจะสั่งซื้อออนไลน์ก็ได้ ในราคาที่คุ้มค่ามาก ๆ ถ้าเทียบกับข้อคิดดี ๆ แล้ว
เครดิตภาพ : shopee.co.th
#หนังสือดีแนะนำ #Move on จากทุกความเจ็บปวด #หนังสือจิตวิทยา