“ใบไม้ที่ปลิดปลิว” นวนิยายน้ำดีของนักเขียนชั้นครูที่ควรอ่าน

“ใบไม้ที่ปลิดปลิว” นวนิยายน้ำดีของนักเขียนชั้นครูที่ควรอ่าน

ในยุคสมัยที่กรอบจารีตของของสังคมเข้มแข็งทำให้ชายที่เปลี่ยนกายและใจเป็นหญิงดูจะเป็นเรื่องที่ผู้คนในสังคมรับไม่ค่อยได้ แต่เพื่อการแก้แค้นและทำตามความปรารถนาของตนเอง การตัดสินใจแหกกรอบสังคมจึงพ่ายแพ้ต่อความต้องการนั้น หากสุดท้ายแล้ว ความต้องการเองก็พ่ายแพ้ต่อจารีตและอคติหรือการตีตราของสังคมเช่นเดียวกัน

นวนิยายเรื่อวใบไม้ที่ปลิดปลิวนำเสนอเรื่องราวของตัวละครเพศที่สามที่แอบรักอาแท้ ๆ ของตัวเองและยังถูกพ่อต่อว่า เกลียดชังเพราะกิริยาแบบหญิงในร่างชายนั้น เขาจึงตัดสินใจแปลงเพศ ศัลยกรรมใบหน้าหรืออาจจะทั้งร่างกายเลยก็ว่าได้เพื่อกลับมาแก้แค้นพ่อแท้ ๆ และให้ได้ใกล้ชิดกับอาที่ตัวเองหลงรัก แต่สุดท้ายเมื่อความจริงถูกเปิดเผย เขาก็เป็นคนตัดสินใจเองอีกครั้งที่จบชีวิตตัวเองลงอย่างสงบ

ความเข้มข้นที่ชวนหดหู่และเศร้าใจใน “ใบไม้ที่ปลิดปลิว”

จากคำโปรยปกหลังของหนังสือที่ได้อ่านครั้งแรกก็ต้องตัดสินใจซื้อมาอ่าน ข้อความนั้นมีอยู่ว่า

นิรา เสมือนใบไม้อ่อนแรกผลิ เธอมิใช่ดอกไม้ตูม

ถ้าเธอเป็นภาพปั้น มือศัลยแพทย์ทั้งหลายก็คือช่างแกะสลัก จนเป็นวรรณศิลป์

แต่เขาต่างหาก ใส่ชีวิตลงไป เขา ‘หวัง’ ให้เธอ…

…งามรูป พ่างเทพ นิรมิต

   งามจิต   ดุจน้ำค้าง หยาดกลางหาว

งามน้ำค้าง ยามปราศรัย ไพเราะพราว

งามน้ำมือ ประณีตราว เทพบรรจง…

‘เธอ’ ชนะธรรมชาติด้วยรูปลักษณ์ หากความอ่อนหวาน สุขสม รมย์รื่น

ธรรมชาติมิยอมหลั่งโลมให้!

มนุษย์…ไม่มีใครเคยได้ทั้งหมด เพียงแต่ได้เกือบหมดก็ควรพอใจแล้ว

ผู้ใดดำรงอยู่ด้วยสัจจะ ผู้นั้นย่อมตระหนักได้…ธรรมชาติพ่ายแพ้มนุษย์จริงหรือ?

เฉกนี้แล้ว ไยมนุษย์จึงไม่ยินดีต่อสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้

โลกเบื้องบนสวย ร่มเย็น ความฝันเท่านั้นเป็นนิรันดร

โลกเบื้องล่างยังคงพลุกพล่าน ชีวิตดำเนินต่อไป เร่งร้อน เพื่อไปสู่จุดหมายปลายทาง

สุขสมก็ชั่วครั้ง ทุกข์ทนก็ชั่วคราว

ทุกคนมีสิทธิ์ฝัน หากไม่ใช่ทุกคนมีสิทธิ์ได้!

ความฝันงดงามเสมอ หากความจริงมันตรงกันข้าม และ…บางคนเท่านั้น

ที่ทนต่อ ‘ความจริงของชีวิต’ ได้

นวนิยายเรื่องใบไม้ที่ปลิดปลิวถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์เมื่อปี 2562 และได้รับความนิยม มีกระแสพูดถึงอย่างล้นหลาม แต่ในบทละครจะต่างจากตัวบทนวนิยายโดยการเพิ่มความสนุกและความทันสมัย นิราในละครไม่ได้ตายในตอนจบ แต่กลับได้รับชีวิจใหม่และใช้ชีวิตนั้นต่อไปได้อย่างมีความสุขแต่ในนวนิยายตัวละครฆ่าตัวตาย อีกหนึ่งความต่างคือในนวนิยายนิราเป็นหลายแท้ ๆ ของอา แต่ในละครอาที่ว่าคือสามีของน้องของพ่อนิรา

ไม่ว่าจะในรูปแบบไหน ความเข้มข้น และความเศร้าใจต่อชีวิจมนุษย์คนหนึ่งก็ยังหดหู่ไม่แพ้กัน นี่คือการทำความเข้าใจสังคม และตัวตนของคนได้จากการอ่านนวนิยายเล่มนี้ นวนิยายที่ควรได้อ่าน

ใบไม้ที่ปลิดปลิว

ผู้เขียน ทมยันตี

พิมพ์ครั้งที่5 ตุลาคม 2557

สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม

จำนวน 470 หน้า ราคา 300 บาท

#นวนิยายน่าอ่าน #ใบไม้ที่ปลิดปลิว #หนังสือดีแนะนำ